รองเลขาธิการ ศอ.บต. ลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างถนนจุดเชื่อมของด่านศุลกากรสะเดา – ด่านบูกิตกายูฮิตัม ก่อนเคาะแบบรอบสุดท้าย

Spread the love

รองเลขาธิการ ศอ.บต. ลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างถนนจุดเชื่อมของด่านศุลกากรสะเดา – ด่านบูกิตกายูฮิตัม ก่อนประชุมคณะทำงานด้านเทคนิค เคาะแบบรอบสุดท้าย

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2566) นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดเชื่อมรอยต่อระหว่างประเทศไทย – มาเลเซีย โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ความกว้างขนาด 6 เลนส์ ระยะทาง 850 เมตร จากจุดเชื่อมด่าน ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปประชุม หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group: EWG) ร่วมไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 – 23 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรม Pulse Grand ปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย นี้ โดยมี นายคณิต มีปิด นายด่านศุลกากรสะเดา นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับและลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

การประชุม EWG ครั้งนี้ มีเป้าหมายการหารือเเละพิจารณารับรองแบบจำนวน 3 ประเด็น ประกอบด้วย

1) ปรับแบบถนนเชื่อมต่อด่านทั้งสอง โดยยังคงไว้ที่จุดเชื่อมต่อที่ BP23/9 – 23/10 จํานวน 6 ช่องจราจร เพื่อให้เป็นไปตามความร่วมมือตามที่นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียและประเทศไทย ได้มีการประชุมหารือร่วมกันเมื่อวันที่ 9-19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

2) ปรับแนวถนนเชื่อมต่อกับตําแหน่งศูนย์กลางของถนน (Center Line and Angel) ระหว่างหลักเขตแดน ที่ 23/9 ถึงหลักเขตแดนที่ 23/10 มีระยะทาง 83.88 เมตร ให้มีขนาดเท่ากันระหว่าง 2 ประเทศ

3) ปรับมุมองศาเเนวถนนของฝ่ายไทยใช้ 108 องศา ให้สอดคล้องทางมาเลเซียให้ 129 องศา ซึ่งการบรรจบของตําแหน่งศูนย์กลางของถนน (Center Line and Angel) ฝั่งมาเลเซียจะไม่ตรงกับฝั่งไทย มีระยะห่างประมาณ 1.07 เมตร ทั้งนี้การวางแนวถนนที่จะต้องปรับแนวของฝั่งไทยอาจเกิดข้อจํากัดในเรื่องของรัศมีโค้งที่ติดกับเส้นแบ่งเขตแดน จึงเสนอให้ทั้งสองประเทศจำกัดความเร็วก่อนถึงเขตเเดนโดยปรับลดจาก 80 km/hr. เหลือเพียง 50 – 60 km/hr.

นอกจากนี้ ยังลงไปตรวจเยี่ยมจุดที่มีการปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อเสนอมาเลเซียโดยที่การก่อสร้างของไทยไม่มีผลกระทบรวมทั้ง หารือเพิ่มเติมการสร้างจุดเชื่อมพื้นที่ด่านศุลกากรเดิมโดยฝ่ายไทยจะเสนอการก่สร้างถนนเชื่อมต่อเพิ่มเติมความยาวประมาณ 50 เมตร เพื่อเชื่อมด่านศุลกากรเดิม กับถนน 6 ช่องจราจร เพื่อให้มีการสัญจรโดยใช้เส้นทางเดิมไว้กับชุมชนให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการลงทุน บริเวณเขตการค้าชายแดนอีกด้วย ทั้งนี้ในที่ประชุม จัดเตรียมข้อมูล ก่อนการประชุม ewg ได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวด้วยแล้ว เห็นว่าไม่กระทบต่อการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อของไทยมาเลย์ และเป็นเรื่องของฝ่ายไทยดำเนินการเพียงแต่ต้องมีการ รายงานให้ คณะทำงานเทคนิคทั้ง 2 ประเทศทราบเพื่อจะได้เข้าใจที่ตรงกัน

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics